ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับจีดีพีปี 2566 ที่ 3.2% เศรษฐกิจโลกถดถอยจับตาจีนคลายล็อกดาวน์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับจีดีพีปี 2566 ร้อยละ 3.2  ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกถดถอย จีนมีแนวโน้มคลายล็อกดาวน์ ติดตามนักท่องเที่ยวเข้าไทย 22 ล้านคน คงสินเชื่อโต 5% คาดเฟดทยอยขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5%

นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เผยว่า แนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2566 ซึ่งจะกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยูโรโซนมีแนวโน้มที่จะไม่เติบโต เป็นผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบจากวิกฤตพลังงานในยุโรปด้วย ในขณะที่ แนวโน้มที่จีนจะเปิดประเทศในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2566 มีมากขึ้น แต่ก็ยังต้องติดตาม สถานการณ์ในจีนหลังจากนี้ เนื่องจากยังมีความเป็นไปได้ที่จีนจะเผชิญการแพร่ระบาดระลอกใหม่ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อเนื่องมายังกิจกรรมทางเศรษฐกิจจีน ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อสถานการณ์การเปิดประเทศของจีนดังกล่าว โดยยังคงจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 22 ล้านคน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ไว้ที่ร้อยละ 3.2

ส่วนแนวโน้มดอกเบี้ยนั้น มองว่าเฟดคงจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของ ปี 2566 ไปแตะระดับร้อยละ 5.0 หรืออาจสูงกว่านั้น ก่อนที่จะมีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงตลอดทั้ง ปี 2566 ขณะที่ กนง.มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในการประชุมอีก 2 ครั้งๆละร้อยละ 0.25 ซึ่งย้ำว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศยังอยู่ในจังหวะขาขึ้นเช่นเดียวกัน ด้านแนวโน้มเงินบาทในช่วงไตรมาสแรกของปี มีโอกาสแข็งค่าขึ้น หากเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยตามแผนที่วางไว้

สำหรับภาคการเงิน ภาพแนวโน้มสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในไทยปี 2566 คาดว่า จะเติบโตในกรอบจำกัดราวร้อยละ 4.2-5.2 เทียบกับปีนี้ที่คาดว่าจะโตร้อยละ 5.0 ตามผลของเศรษฐกิจที่เผชิญหลายปัจจัยเสี่ยง อีกทั้งธุรกิจมีการฟื้นตัวที่ไม่ทั่วถึง น่าจะยังไม่ได้ดีขึ้นจากปี 2565 นัก โดยเอ็นพีแอล ณ สิ้นปี 2566 คาดว่าจะ อยู่ในกรอบร้อยละ 2.55-2.80 เทียบกับร้อยละ 2.65-2.75 ที่คาด ณ สิ้นปี 2565

สำหรับแนวโน้มธุรกิจไทยปี 2566 นั้น นางสาวเกวลิน รองกรรมการผู้จัดการ มองว่ายังเผชิญหลาย โจทย์รุมเร้า โดยฝั่งต้นทุน จะมีต้นทุนค่าไฟฟ้า ค่าแรง และดอกเบี้ยที่ขยับขึ้น ขณะที่ ฝั่งรายได้จะถูกกระทบ จากการที่เศรษฐกิจแกนหลักของโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยและเงินบาทแข็งค่า จนฉุดความต้องการสินค้า ส่งออกไทย จึงทำให้การฟื้นตัวของรายได้ธุรกิจในปี 2566 ยังมีลักษณะเป็น K-Shaped โดยธุรกิจที่นำการฟื้นตัว จะเป็นโรงแรมและร้านอาหาร โรงพยาบาลเอกชน รวมถึงค้าปลีก ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่ฟื้นตัวช้า หรือหดตัว ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ และส่งออกในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า

นอกเหนือจากนั้นในปี 2566 ธุรกิจไทยจะเห็นโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ชัดขึ้น โดยคู่ค้าของไทยจะเข้มงวดเรื่องเกณฑ์ต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) จากฝั่งยุโรป และความพยายามของไทยที่ทำให้คำนิยามกลางและ แนวทางขับเคลื่อน (Green Taxonomy) มีความชัดเจนขึ้น ซึ่งธุรกิจไทยต้องเร่งศึกษาและปรับตัว เพื่อสร้าง ขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาว


#กสิกรไทย #ภาวะเงินเฟ้อ #เศรษฐกิจไทย #KBank #ข่าวเศรษฐกิจ